การมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามที่ยากลำบาก มันดีจริงๆนะ มีเงินไว้รักษายามเจ็บป่วย มีเงินไว้ใช้ในยามที่แก่ตัวลง
แต่เอ๊ะ!!! บางคนเก็บเงินไม่อยู่ รู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลือเงินให้เก็บซะแล้ว ยิ่งช่วงวัยรุ่นที่อยากจะเป็นเศรษฐีอายุยังน้อย
ก็รู้สึกว่ามันยากเหลือเกินได้มาเท่าไรก็ใช้หมด จะมีวิธีไหนบ้างนะที่จะช่วยได้ ลองทำตาม 9วิธีประหยัด นี้ดูค่ะ
คิดว่าได้ผลดีและใช้ได้จริง
วันนี้จะมาแนะนำวิธีการออมเงินแบบง่ายๆมาฝาก และสามารถทำได้จริงสำหรับใครที่อยากจะมีเงินเก็บตั้งแต่ตอนนี้
ก็เริ่มทำไปพร้อมกันได้เลย
1. ห่อข้าวกลางวันไปกินเอง
ความจริงแล้วโดยทั่วไปที่โรงเรียนหรือที่งานก็จะมีโรงอาหารสำหรับพนักงานอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะขายอาหารในราคาที่ถูกกว่าปกติ แต่เราลองมาคิดดูดีดีสิ ว่าถ้าเราเอาข้าวไปกินเองที่ทำงาน เราจะประหยัดเงินไปได้วันละ 30-50 บาท หรือประมาณเดือนละ 900-1,500 บาท
ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว และถ้าหากนัดกันกับเพื่อนๆเอากับข้าวไปกินด้วยกันมีกับข้าวหลายอย่างก็แบ่งปันกันได้อีกด้วย
นอกจากจะประหยัดในเรื่องของเงิน แล้วยังประหยัดเวลาอีกด้วย ไม่ต้องเดินไปหาของกิน ไม่ต้องไปต่อคิวรอนานๆ
2. วางมือจากของให้โทษต่อสุขภาพ
สำหรับคนที่ชอบสังสรรค์ ชอบปาร์ตี้กับเพื่อนๆเป็นชีวิตจิตใจ คุณรู้ไหมว่าสิ่งนั้นทำให้เงินของเราหายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว และยังไม่พอยังทำให้ความฝันที่จะมีเงินเก็บของคุณหลุดลอยออกไปอีกยาวไกล นอกจากนั้นยังมีโทษต่อสุขภาพด้วย แต่ถ้านานๆอยากจะสังสรรค์กับเพื่อนทีนึง เราก็ควรจะแบ่งเงินออกมาเก็บไว้ในส่วนของการปาร์ตี้ไว้อย่างชัดเจน และควรเลือกไปงานที่สำคัญจริงๆ
3. ยืมอุปกรณ์แทนการซื้อ
ของบางอย่างที่เราจำเป็นต้องซื้อมันก็ควรซื้อ แต่ถ้าบางอย่างที่ไม่จำเป็น หรือเป็นสิ่งที่เราอาจจะขอหยิบยืมจากคนรอบข้างของคุณมาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
อาจจะลองถามครอบครัว ญาติพี่น้อง หรือเพื่อน รุ่นพี่ ที่สามารถหยิบยืมกันได้ เพราะของบางอย่างเราอาจจะใช้แค่ครั้งเดียวก็ไม่ได้ใช้อีก นอกจากจะประหยัดเงินเราแล้ว ยังใช้ของให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าไม่ทิ้งขว้าง
4. หักค่าขนมมาหยอดกระปุกทุกวัน
อันนี้ถือว่าเป็น วิธีการเก็บเงินที่ง่ายที่สุดเลยนะ เด็กๆทุกคนควรฝึกเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆ ให้มีนิสัยในการอดออมเงินไว้ แต่ถึงจะบอกว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่มันก็ทำได้ยากเหมือนกัน
แนะนำให้ลองนำเงินค่าขนม แบ่งออกมา 10-30% ของเงินเดือนเพื่อมาหยอดกระปุก หรือถ้าหากคนที่ได้เป็นรายวัน ก็อาจจะเริ่มหยอดวันละ 20-50 บาท แล้วแต่ใครได้มากได้น้อย
ทำวันละนิด ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ
5. ดื่มแต่น้ำเปล่า
ใครที่กำลังติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลม ก็ควรจะกินให้น้อยลง หรือถ้าเป็นไปได้ก็งดกินไปเลยดีกว่า หรือนานๆกินครั้งเพื่อลดความอยากน้ำตาล เพราะจริงๆแล้วน้ำเปล่ามีประโยชน์ต่อร่างกายและดีที่สุดแล้ว และก็มีราคาที่ถูกกว่าน้ำหวาน น้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือน้ำชนิดอื่นด้วย
และพวกน้ำหวานๆกินเยอะๆนานๆเข้าก็ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้ป่วยง่าย อ้วน และยังทำให้เราเสียเงิยแบบเสียสุขภาพไป
6. เปิดท้ายขายของมือสอง
ในวัยรุ่น แน่นอนว่าแฟชั่นเสื้อผ้าต้องมีเยอะแน่ๆใส่ไม่ทันบ้าง ใส่ไม่ได้บ้าง เพราะซื้อไว้เยอะ บางชุดใส่ครั้งเดียวก็เบื่อแล้ว เก็บไว้ก็เปลืองเนื้อที่ตู้ รกหูรกตาไปหมด ลองเอาไปขาย แบบเปิดท้ายขอยของ
แล้วนำเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้วไปขายดู หรือจะโพสต์ลงโซเชียลขายของมืองสองก็ยังได้ และยังประหยัดค่าเช่าที่อีกด้วย
วิธีนี้ นอกจากจะเป็นการจัดระเบียบเสื้อผ้าในตู้เราแล้ว ยังเป็นการเก็บเงินเข้ากระเป๋าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
7. เก็บเงินค่าเน็ตมือถือไว้ ใช้ WiFi สาธารณะดีกว่า
สมัยนี้ในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สถานที่ทำงาน ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ ก็มี wifi free ให้ได้ใช้กัน ถึงมันจะไม่ค่อยถูกใจ แต่มันก็ถูฏกับเงินในกระเป๋าเรานะจ๊ะ
แต่เชื่อถือว่าวิธีนี้เป็นการลดรายจ่ายได้ดีเลยทีเดียว
และจะมีเงินสำหรับเก็บออมมากขึ้นอย่างแน่นอน
8. ช้อปปิ้งได้ แต่อย่าเผลอใจกับสิ่งไร้สาระ
วัยรุ่น เรื่องกิน เรื่องเที่ยว มันเป็นของธรรมดา แต่ถ้ามองถึงอนาคต และจะได้ฝึกนิสัยในการใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่าและประหยัดอดออม ฝึกให้เป็นนิสัยของเรา เก็บออมเงินไว้ตั้งแต่ยังเล็ก
เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้เป็นเศรษฐีน้อยก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้ารู้จักหักห้ามใจไว้ตั้งแต่ตอนนี้
9. ซื้อสลากออมเงิน
การซื้อสลากออมเงิน ก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดีอีกทางนึง เพราะนอกจากเราจะได้เก็บออมเงินแล้ว เรายังมีโอกาสที่จะถูกรางวัลเป็นของแถมให้กับเราอีกด้วยเหมือนได้ลุ้นไปในตัว และข้อดีอีกอย่างคือ สลากออมเงินจะมีการกำหนดการในการฝากเงินเป็นระยะยาว 1-3 ปี
ก็เหมือนเป็นการบังคับเราเพื่อไม่ให้ใช้เงินในส่วนนี้เรียกได้ว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม และถือเป็นการเริ่มต้นในการลงทุนที่ดีสำหรับอนาคต และเป็นประสบการณ์ที่ดี
