ผัก 8 ชนิด ควรทำให้สุกก่อนรับประทาน

การทานผัก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี  เพราะสารอาหารในผักนั้น  เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายและผักมีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาโรคได้หลากหลายชนิด  แต่ก็มีผักบางชนิดที่ต้องผ่านการปรุงสุกเท่านั้น   ถึงจะทานได้และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย  วันนี้เราจึงรวบรวมผัก 8 ชนิด ที่ควรหลีกเลี่ยงการทานแบบดิบ

ถั่วฝักยาว

เชื่อว่าหลายๆท่านชอบทานถั่วฝักยาวแบบดิบๆ และคงจะชินกับการทานแบบนี้จนคิดว่ามันทานได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับร่างกาย  แต่อย่าชะล่าใจไปค่ะ  หลายๆคนคงไม่ทราบว่าถั่วฝักยาวนั้นเป็นผักที่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณมากเพื่อให้ถั่วฝักยาวนั้นอยู่ครบเต็มฝักโดยไม่มีหนอนหรือแมลงมากิน

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของร่างกายเรา  ควรนำมาทำความสะอาดและปรุงสุกก่อนทานจะดีที่สุดค่ะ

ถั่วงอก

ผักชนิดนี้เรามักพบมากที่สุดใน ก๋วยเตี๋ยว หรือเมนูอาหารต่างๆอีกมากมายก็มีถั่วงอก จริงๆแล้วถั่วงอกเรามักจะทานกันแบบดิบๆกันจนชิน  แต่ทุกท่านทราบหรือไม่ว่าในถั่วงอกนั้นมีทั้งแบคทีเรียซัลโมเนลา และ แบคทีเรียอีโคไล 

ซึ่งแบคทีเรียทั้งสองชนิดนี้  ทำให้เรานั้นเกิดอาการท้องเสีบรุนแรงได้  ที่สำคัญในถั่วงอกนั้นมักผ่านการฟอกขาวเพื่อให้มีสีขาวสะอาดน่าทาน  ซึ่งสารฟอกขาวนั้นถือว่าเป็นสารที่อันตรายต่อสุขภาพมากๆ

มันฝรั่ง

มันฝรั่ง ก็เป็นของที่คนนิยมกินมาก ไม่ว่าจะเป็น เฟรนฟราย หรือมันฝรั่งอบ  มันบด  แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่าในมันฝรั่งนั้น  มีสารพิษที่เรียกว่า “ไกลโคแอลคาลอยด์”  ซึ่งสารพิษชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้  อาเจียน ใจสั่นและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ในบางรายถึงขั้นหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิต เพราะฉะนั้นการนำมันฝรั่งมาปรุงสุกจะดีต่อร่างกายที่สุด

มันสำปะหลัง

มันสำปะหลังคงเป็นผักที่หลายๆคนชอบ  แต่ว่าการทานมันสำปะหลังนั้น  หากไม่ผ่านการปรุงสุกอย่างถูกวิธี ก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้สูง  เนื่องจากในมันสำปะหลังนั้นมีสารพิษไซยาไนด์สูงเหมือนกับหน่อไม้ หากกินเข้าไปแบบดิบๆอาจจะทำให้เกิดอาการน้ำลาฟูมปาก แน่นหน้าอก และมีอาการชักร่วมด้วย 

ในบางรายนั้นอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตก็มี  ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่ทานแล้วเกิดผลเสีย  ในสัตว์ก็เหมือนกัน  หากสัตว์กินมันสำปะหลังเข้าไปแบบดิบๆก็เกิดอันตรายได้เหมือนคนเช่นกัน

หน่อไม้

หลายๆคนก็คงจะมีความรู้เกี่ยวกับการทานหน่อไม้มาบ้างแล้ว  ความเป็นจริงแบ้วการทานหน่อไม้นั้น ควรทานแบบปรุงสุกๆเท่านั้น  เน้นย้ำว่าต้องสุกจริงๆ   เพราะในหน่อไม้นั้นมีสารพิษไซยาไนด์สูงมาก  จึงก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์หากทานแบบดิบๆ  ดังนั้นหากจะทานหน่อไม้แนะนำให้นำหน่อไม้มาต้มให้สุก อย่างน้อยใช้เวลาในการต้ม 10 นาที เพื่อเป็นการทำลายพิษที่อยู่ในหน่อไม้ก่อน

ผักโขม

ในผักโขมนั้น  มีกรดซาลิก  กรดชนิดนี้จะเข้าไปขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก ดังนั้นจึงส่งผลให้ร่างกายนั้นได้รับสารอาหารทั้งสองชนิดไม่เพียงพอ  เพราะฉะนั้นหากทานผักโขมดิบๆเท่ากับร่างกายจะไม่ได้รับประโยชน์จากแคลเซียมและธาตุเหล็กเลย

บร็อกโคลี

ในบร็อกโคลีนั้นก็มีสารกอยโตรเจนเหมือนกะหล่ำปลีและดอกกะหล่ำเลยค่ะ   และที่สำคัญน้ำตาลที่อยู่ในบร็อกโคลีนั้นต้องผ่านการปรุงสุกเท่านั้น  มิเช่นนั้น  อาจจะทำให้ท้องอืด  แน่นท้อง และทำให้เกิดแก๊สในท้องอีกด้วย

กะหล่ำปลี และ ดอกกะหล่ำ

กะหล่ำปลีรวมทั้งดอกกะหล่ำ  จะมีสารชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าสารกอยโตรเจน ซึ่งสารตัวนี้นั้นจะไปยับยั้งไม่ให้ร่างกายนั้นสามารถนำสารไอโอดีนไปใช้ได้  โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ควรหลีกเลี่ยง ไม่ทานแบบดิบๆ  เพราะจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและทำให้โรคนั้นยิ่งแย่กว่าเดิม

เชื่อว่าหลายๆคนก็มีความคถ้นชินกับการทานผักที่กล่าวไปข้างต้นแบบดิบๆไปแล้ว แต่ก็เพื่อสุขภาพและ

ความปลอดภัยของร่างกายเราเน้อะ  ผักไหนที่เลี่ยงการกินดิบได้ก็เลี่ยงเถอะค่ะ  อย่างน้อยก็เพื่อตัวเราเองนะคะ

Facebook Comments Box