ทันตแพทย์จุฬาแนะนำ “แปรงฟันแห้ง” ฟันแข็งแรงกว่าเยอะ

โรคฟันผุ

การบ้วนปากหลังแปรงฟันเป็นการลดประสิทธิภาพของฟลูออไรด์ในยาสีฟัน ในการป้องกันฟันผุไปเยอะเลยค่ะ เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือ การแปรงแห้ง

รศ.ทญ.ดร.สุดาดวง กฤษฎาพงษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาทันตกรรมชุมชน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพชีวิต แล้วก็พบว่าฟันผุนั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต คุณภาพชีวิตมากที่สุด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อารมณ์เสีย บางที่ก็เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจ อับอาย ไม่กล้ายิ้ม บางคนโดนเพื่อนล้อ ฟันหลอ ฟันผุ ปากเหม็น พอฟันผุนานๆไปก็ทำให้ปากเหม็น เป็นการรบกวนชีวิตหลายๆด้านมากกว่า ที่เป็นปัญหากวนใจตลอด

น้ำตาล

สาเหตุหลักของการเกิดฟันผุ คือ น้ำตาล
จริงๆเป็นสาเหตุเดียวเลยก็ว่าได้ คือ น้ำตาล การบริโภคน้ำตาลที่มากหรือบ่อยเกินไป ตอนนี้ค้นพบแล้วว่า ฟันผุ เป็นโรคระบาด เป็นกันเยอะๆหลังจากที่มีการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมน้ำตาล โดยเฉพาะระยะหลังมีการแปรรูปอาหารสำเร็จรูป ขนมหวานหีบห่อ ช็อกโกแลตแท่ง เครื่องดื่มหวานๆ อันนี้ตัวหลักมาก ทำให้ฟันผุนั้นพุ่งกระฉูด กลายเป็นโรคระบาดในมนุษยชาติเลย

คำแนะนำ

ให้รับประทานน้ำตาลวันละไม่เกิน 25 กรัม ต่อวัน แต่คนไทยในปัจจุบันรับประทานน้ำตาลโดยเฉลี่ย 104 กรัมต่อคนต่อวัน นั่นก็สูงกว่าเกณฑ์ถึง 4 เท่า ก็จึงไม่แปลกใจว่าทำไมฟันผุถึงเป็นโรคระบาด แล้วก็ไม่ใช่ฟันผุอย่างเดียวนะคะ ยังมีอย่างอื่นที่เป็นผลเสียที่เกิดจากการบริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก คือ อ้วน เตี้ย โง่ เบาหวาน ความดัน ฟันผุ แก่เหี่ยว

ถ้าคุณลดน้ำตาลจากเครื่องดื่มได้ แค่อย่างเดียวนะคะ จะลดไปเยอะเลย

การแปรงฟันแห้ง ได้ฟลูออไรด์เต็มๆ 100%

การแปรงเปียกเป็นการลดประสิทธิภาพฟลูออไรด์ในการป้องกันฟันผุ เราอุตส่าห์ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์อยู่แล้ว มีประโยชน์อยู่แล้ว แต่เรากลับล้างมันทิ้งไปเสียนั่นแหละ ถ้าเราไม่บ้วนน้ำเลยหรือแปรงแห้ง ฟลูออไรด์เต็มแมกซ์ 100% ค่ะ ถ้าเราบ้วนปากแค่เพียง 1 ครั้ง ฟลูออไรด์ลดลงมาครึ่งหนึ่ง คือ 50% บ้วน 2 ครั้ง ลดลงไปอีกเหลือ 25% ถ้าหลังจากแปรงฟันแล้วเรารับประทานหรือดื่มน้ำทันทีเลย ก็จะลดลงไปอีก ก็คือ ไม่เหลือเลย

เพราะฉะนั้นหลังจากแปรงฟันเสร็จ ไม่ควรทานหรือดื่มอะไรเลยอย่างน้อย 30 นาที ทำได้ง่ายๆก็คือ พอบีบยาสีฟันลงบนแปรงแล้ว ก็แปรงไปเลยค่ะ พอแปรงเสร็จปุ๊บก็บ้วนฟองทิ้ง ไม่ต้องบ้วนน้ำตามแล้วก็ล้างปาก เสร็จจบ

การแปรงฟันแห้ง คือ หารแก้ปัญหาฟันผุที่ทั่วโลกยอมรับ

คำหลักที่ทางสากลใช้กันก็ คือ Spit don’t rinse ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ถ่มหรือบ้วนฟองทิ้ง
แล้วก็อย่าเอาน้ำเข้าไปล้าง งานวิจัยมีเยอะมาก และมีมาตั้งแต่ปี 1980 ทุกงานวิจัยให้ผลสอดคล้องกันหมด ทั้งการตรวจโครงสร้างฟัน ดูปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำลาย รวมถึงทดสอบในคน เขามีการเชิญผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกมาประชุมกัน โดยที่หิ้วหลักฐานทางวิจัยมาคุยกันเมื่อปี 2012 แล้วสรุปเป็นมติเอกฉันท์ว่า แนะนำ Spit don’t rinse หรือแปรงแห้งกับประชาชน เพราะฉะนั้นตอนนี้มันเป็นคำแนะนำที่เป็นที่ยอมรับแล้วก็เผยแพร่กับประชาชนทั่วโลก

กลืนยาสีฟันอันตรายไหม?

กลืนยาสีฟันไม่อันตราย ยาสีฟันที่เขาบอกว่า Spit don’t rinse don’t swallow ไม่ได้ให้เรากินยาสีฟันเข้าไปนะคะ คุณใช้น้ำลายชะล้างออกมา แต่นิดๆหน่อยๆที่มันหลงเหลืออยู่ในปากไม่เป็นอันตราย
SLS เป็นสารให้ฟอง สารทำความสะอาด ที่ใช้ในอาหารเพื่อให้ไขมันกับน้ำผสมกัน มันก็ทำให้การทำความสะอาดในช่องปากเราเกลี้ยงขึ้น ส่วนประกอบในยาสีฟันทั้งหมด รวมทั้ง SLS ที่กลัวกันด้วยเป็นเกรดอาหาร หรือเกรดเภสัชกรรม เป็นเกรดที่ใช้ในยารับประทานและก็ในอาหาร เพราะฉะนั้นพวกนี้ถูกคำนวและควบคุมมาแล้วว่าให้ใส่ในปริมาณที่จำกัด ทานได้นิดหน่อยๆ ไม่เป็นไร

แปรงฟันแห้งทำได้ง่าย

แปรงฟันแห้งทำได้ง่าย ฟันผุน้อยลง คุณภาพชีวิตดีขึ้น คือ ตอนนี้ทันตแพทย์ที่ทำงานในส่วนของภูมิภาคต่างจังหวัดนะคะ หลายจังหวัดมาก ทำแปรงแห้งทั้งจังหวัดแล้ว ก็เหมือนที่บอกว่าถ้าคนที่เคยสัมผัสกับช่องปากของชาวต่างจังหวัดจริงๆ จะพบว่าฟันผุกันเยอะมาก และเป็นปัญหาชีวิตกันเยอะมาก ทันตแพทย์หลายคนซื้อแปรงแห้งโดยไม่ลังเล เพราะรู้สึกว่าเป็นวิธีที่ง่าย ไม่เปลืองที่สุด เหมาะกับวิถีชีวิตที่สุด แล้วก็ทำกันทั้งจังหวัด มันป้องกันฟันผุ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม ง่ายที่สุดและทำเองได้ตลอดชีวิต และก็ต้องชวนทำกันทั้งครอบครัว อยากให้ค่อยๆฝึกเป็นวัฒนธรรมใหม่ของคนไทย ในอีกสักไม่เกิน 10 ปี ในอนาคต ฟันจะผุน้อยลง คุณภาพชีวิตดีขึ้นแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก “แปรงแห้ง” กันเถอะ
รศ.ทญ.ดร. สุดาดวง กฤษฎาพงษ์
คณะทันตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


Facebook Comments Box