ชมพู่ เป็นผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันดี ผลไม้รูปทรงแปลกๆนี้ หลายๆคนคงชอบทาน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนนี้ ทานแล้วรู้สึกสดชื่น ยิ่งกินแบบแช่เย็นยิ่งอร่อย แต่คุณรู้ไหมว่า “ชมพู่” ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายขนาดไหน แล้วเวลาที่เราทานต้องระมัดระวังอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ
คุณค่าทางโภชนาการของ “ชมพู่”
ชมพู่ เป็นผลไม้ที่มีน้ำค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่าฉ่ำน้ำ แต่มีแคลอลี่ต่ำมาก แต่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ชมพู่สดๆ 100 กรัม ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ และสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย เช่น
- โปรตีน 0.60 กรัม
- วิตามินเอ 8.4 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 1 (ไทอามิน) 0.020 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0.030 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) 0.800 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 22.3 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 29 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 123 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 5 มิลลิกรัม
นอกจากจะมีแร่ธาตุและวิตามินตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว ใน ชมพู่ ยังมี ฟอสฟอรัส (Phosphorus), ซัลเฟอร์ (Sulfer), แมงกานีส เหล็ก รวมไปถึงพฤกษเคมี เช่น กรดบิทูลินิก (Betulinic acid), สารแจมโบไซน์ (Jambosine) ที่ส่งผลดีต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ต้านการติดเชื้อราบนผิวหนัง และ ต้านมะเร็ง
ประโยชน์สุขภาพของชมพู่
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ชมพู่ มี สารแอลคาลอยด์ (Alkaloid) ซึ่งงานศึกษาวิจัยเผยว่า สารประกอบอินทรีย์ที่มีไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ที่เรียกว่า “แจมโบไซน์” (Jambosine) สารชนิดนี้ช่วยทำให้กระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลในร่างกายของเราทำงานได้อย่างเป็นปกติ และชมพู่ยังเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งส่งผลดีต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หรือ ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
- ช่วยในการขับถ่าย
นอกจากชมพู่จะเป็นผลไม้ที่มีความฉ่ำน้ำมาก ในชมพู่ยังมีไฟเบอร์ที่ดีเยี่ยม เมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำและไฟเบอร์ที่เพียงพอ ก็จะช่วยให้อาหารเคลื่อนผ่านจากกระเพาะอาหารไปสู่ลำไส้ใหญ่ได้ดีขึ้น จึงแก้ปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหาร เช่น การขับถ่าย ท้องอืด ท้องผูก ท้องเฟ้อ
- ดีต่อสุขภาพหัวใจ
ทำไมถึงบอกว่า ชมพู่ ดีต่อหัวใจ เพราะ สารอาหารที่อยู่ใน ชมพู่ ช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนั้น ใน ชมพู่ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และโพแทสเซียมสูง ที่ช่วยปรับให้ระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเลือดเป็นปกติ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ภาวะหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ใน ชมพู่ มีวิตามินซี (Vitamin C) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกัน เชื่อหรือไม่ว่า ในชมพู่ 100 กรัม มีวิตามินซีถึง 22.3 ไมโครกรัม กินแล้วช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างดี อีกทั้งยังกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งคอลลาเจน เป็นดปรตีนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยบำรุงผิวหนัง ชะลอการเกิดริ้วรอย และดีต่อสุขภาพอีกด้วย
- ช่วยป้องกันมะเร็ง
ใน ชมพู่ อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย รวมไปถึงวิตามินซีและเอ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ซึ่งก็มีผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า สามารถช่วยขัดขวางการเจริญเติบโตของเนื้องอกและเซลล์มะเร็ง จึงลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งปอด
เกร็ดความรู้เล็กๆน้อย
ความเสี่ยงในการทานชมพู่ รู้หรือไม่ว่า ในเมล็ด ราก และใบของชมพู่ มีสารพิษอย่าง “ไซยาไนด์” (Cyanide) อยู่ แต่มีในปริมาณที่น้อย หากเราเผลอทานเข้าไป อาจจะส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ความดันโลหิตลดลงอย่างฉับพลัน อาจจะอันตรายถึงขั้นทำให้หยุดหายใจได้ เพราะฉะนั้น เวลาที่รับประทาน ชมพู่ มีข้อควรระวัง อย่าให้มีเมล็ดติดเข้าไปกับเนื้อ และไม่ควรทาน ชมพู่ มากเกินไป เพราะอาจะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองคอและไอได้
![like-share](https://zoksax.com/wp-content/uploads/2021/01/unnamed-file.jpg)
ติดตามข้อมูลข่าวสารต่อได้ที่ เพจเฟซบุ๊ค ทายใจ-สมองใสแจ๋ว
เพื่อเป็นกำลังใจในการทำข่าวของทีมงาน สมองใส
อย่าลืมกด Like และ แชร์ ข่าวสารเหล่านี้เพื่อเป็นความรู้ให้คนที่คุณรัก