กลืน “เมล็ดผลไม้” ลงท้อง อันตรายอย่างไร?

คาดว่าหลายๆคนคงจะเคย กลืนเมล็ดผลไม้ ลงไปโดยไม่ตั้งใจ ตั้งแต่เมล็ดขนาดเล็ก อย่างเช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว  อย่างบางคน ชอบเคี้ยวทานเมล็ดฝรั่ง แต่เคี้ยวไม่ละเอียดเพราะมันแข็ง  หรือเมล็ดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย อย่างเช่น เมล็ดมะขาม น้อยหน่า หรือกระท้อน  จึงมีคนสงสัยกันว่า ความเป็นจริงแล้ว การ กลืนเมล็ด เข้าไป เป็นอันตรายมากน้อยขนาดไหน แล้วถ้าเกิดว่าเราเผลอกลืนลงไปแล้วควรจะทำอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

กลืนเมล็ดผลไม้ อันตรายอย่างไร?

อันตรายกับทางเดินหายใจ

เมล็ดผลไม้เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะติดคอ หรือ ปิดกั้นทางเดินหายใจ จนทำให้เราหายใจไม่ออกได้ ในกรณีนี้เสี่ยงชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที หากคุณไม่สามารถเอาเมล็ดที่ติดอยู่ออกมาได้ทันเวลา  โดยเฉพาะกับเมล็ดที่มีขนาดใหญ่และแข็ง  จะยิ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตได้  ในกรณีที่ติดอยู่ในทางเดินหายใจ แต่ไม่ได้อุดกั้นจนหายใจไม่ออก  แต่ทำให้ทางเดินหายใจติดเชื้อหรืออักเสบ  ไอออกมามีเลือดปนหนอง  จนอาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ปอดบวม ฝีในปอด เป็นต้น

อันตรายกับหลอดอาหาร

การ กลืนเมล็ดผลไม้ เข้าไปทำให้เกิดอันตรายกับหลอดอาหาร ยกตัวอย่างในกรณีที่พ้นทางเดินหายใจมาแล้ว  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เมล็ดเหล่านี้ จะไหลลื่นไปถึงกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ จนไปถึงถ่ายออกมานอกร่างกายได้เป็นผลสำเร็จเสมอไป  เพราะถ้าหากเป็นเมล็ดที่มีขนาดใหญ่ หรือมีด้านที่แหลมคม ที่สามารถทิ่มหรือติดอยู่บริเวณหลอดอาหารเป็นเวลานานๆ โดยไม่หลุดออกมาเลย  ซึ่งก็อาจจะทำให้เยื่อบุบริเวณนั้นมีอาการอักเสบ เป็นแผล จนอาจถึงขั้นหลอดอาหารทะลุได้

อันตรายกับลำไส้

แล้วถ้าหากเมล็ดผลไม้ยังมีความลื่นอยู่ ก็อาจจะทำให้เมล็ดนั้นไหลไปได้ไกลจนถึงลำไส้และกระเพาะอาหารได้ แต่ในบางครั้งอาจจะไปติดอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของลำไส้ โดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ที่มักพบว่าเข้าไปปิดลำไส้จนทำให้เกิดภาวะลำไส้อุดตัน  หรือถ้าหากเป็นเมล็ดที่ความแหลมคมอย่างกระท้อน เมื่อผ่านกระเพาะอาหารไปแล้วเนื้อลื่นของเมล็ดผลไม้ก็จะหายไปจนเหลือแต่เมล็ดแข็งๆไว้  ซึ่งเมล็ดแข็งๆนี้อาจจะทำให้ลำไส้ใหญ่เป็นแผล ลำไส้ใหญ่ทะลุ อุจจาระรั่วซึมออกมาในช่องท้อง จนทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด จนทำให้อาการทรุดหนักไปจนเสียชีวิตได้

ถ้าเผลอกลืนเมล็ดผลไม้ลงไปแล้ว จะต้องทำอย่างไร?

แล้วถ้าหากเราเผลอกลืนเมล็ดเข้าไป หากเป็นเพียงเมล็ดเล็กๆ อย่าง ส้ม มะนาว เมล็ดฝรั่ง ที่มีขนาดไม่ใหญ่ หากผ่านหลอดลม หลอดอาหาร ไปสู่กระเพาะอาหารไปได้ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เว้นแต่ว่า มีโอกาสที่เมล็ดนั้นจะตกลงไปอยู่บรเวณไส้ติ่ง จนอุดตันแล้วทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบ  แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ

แต่ถ้าหากเป็นเมล็ดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เช่น มะขาม น้อยหน่า มังคุด ที่มีความแข็ง และไม่ได้ลื่นมาก ก็มีความเสี่ยงที่จะติดหลอดลมได้ ให้ลองสังเกตอาการตัวเองดูว่าสามารถหายใจเข้าออกได้สะดวกหรือไม่ และให้รอสังเกตอาการ 2-3 วัน ถ้าหากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอาการ หายใจไม่สะดวก อึดอัด หรือปวดท้อง ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

สุดท้าย เมล็ดผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ และมีความแหลมคม อย่างเช่น กระท้อน  แนะนำว่าถ้าหากเผลอกลืนเข้าไปให้รีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยที่ไม่ต้องรอดูอาการ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้มาก ผู้ป่วยหลายรายที่ต้องรับการผ่าตัดจากการกลืนเมล็ดกระท้อนเข้าไปในร่างกาย ดังนั้นหากเราพบแพทย์ก่อนแล้วต่อยมาติดตามอาการดู เพื่อไม่ให้เกิดอาการลำไส้ทะลุหรืออักเสบ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือเสียชีวิตได้

Facebook Comments Box